By ดารินทร์ อิงควงศ์ 5202113147
E commerce
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการใช้อินเตอร์เนตเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่
· Dell ซึ่งใช้ระบบ IT ในการบริหาร supply chain เช่น จัดการวัสดุ ส่วนประกอบซึ่งส่งมาจากประเทศอื่นๆ การรับคำสั่งซื้อทางอินเทอร์เนต
· Amazon
Click & mortar คือธุรกิจที่ดำเนินการทั้งบนอินเตอร์เนต และออฟไลน์ เช่น ธนาคาร
Brick and Mortar คือธุรกิจที่ไม่ได้ดำเนินการบนอินเตอร์เนต
E-commerce business model
o Affiliate marketing หาpartner ให้นำ logo หรือ banner ของเราไปวางไว้บนเว็บไซต์ของเขา เพื่อให้ลูกค้าสามารถคลิกจากหน้าของ Partner เข้าไปได้ โดยให้ส่วนแบ่งแก่ partner ตามปริมาณลูกค้าที่คลิกเข้าไปดูผ่านไซต์ของ partner
o Bartering online แลกเปลี่ยนสินค้า และ บริการ
o Online Advertise เช่น ผ่าน facebook
o E-Classified
o Electronic marketplace and exchange
o Electronic tendering การประมูลทางอิเลกทรอนิกส์ มักใช้ใน B2B
o API( Application Programming Interface ) คือการแชร์โปรแกรม Application ต่างๆให้แก่ลูกค้า เช่น I phone google maps
o Social Commerce คือการทำการตลาดผ่านบุคคลใกล้ชิดของลูกค้า เพราะ มนุษย์มักให้ความเชื่อถือกับบุคคลใกล้ชิดมากกว่าสื่อทางการตลาดทุกชนิด
ประโยชน์ของ E-Commerce
· ต่อองค์กร
o ช่วยขยายโอกาสในการขายไปยังตลาดต่างประเทศด้วยต้นทุนที่ต่ำ
o ช่วยให้บริษัทสามารถคัดเลือกเฟ้นหาวัตถุดิบต่างๆจากทั่วโลก ด้วยต้นทุนที่ต่ำ
o ลดต้นทุนเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่าย
o ลดต้นทุนในกระบวนการสร้าง จัดจำหน่าย กระจายสินค้าที่เป็นดิจิตอล
o มีต้นทุนการสื่อสารที่ต่ำ
o ช่วยให้เกิด niched market
· ต่อลูกค้า
o ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาของสินค้าจากผู้ผลิตหลายเจ้า
o ช่วยเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า
o ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเข้าถึงได้จากทุกแห่ง
o สามารถเข้าถึงข้อมูล รายละเอียด ต่างๆได้โดยใช้เวลาน้อยมาก
o ช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของตนได้ (customized)
· ต่อสังคม
o ช่วยลดปริมาณการจราจร การเดินทาง
o ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมจากการแข่งขันด้านราคาและคุณภาพของสินค้าใน E-commerce
ข้อจำกัดของ E-Commerce
· ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
o เทคโนโลยีของคู่ค้าแตกต่างกัน
o ต้องคอยพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆให้ก้าวหน้า
· ข้อจำกัดอื่นๆที่ไม่ใช่เทคโนโลยี
o ยังขาดกฎหมาย ข้อบังคับต่างๆระหว่างประเทศ และขาดมาตรฐานของอุตสาหกรรม
o ปัญหาความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินบนอินเตอร์เนท
Major Model of E business
o B2E องค์กรส่งกระจายข้อมูลไปยังพนักงานทั่วทั้งองค์กร
o E2E การติดต่อสื่สารระหว่างพนักงานด้วยกันเอง
o E-collaborative เทคโนโลยีด้านดิจิตอลที่ก่อให้เกิดการร่วมมือกัน
o E-Government ส่งข้อมูล ให้บริการแก่ประชาชน
ช่องทางการชำระเงิน
Electronic Fund Transfer Electronic check Electronic e-card E-cash ATM
Cloud computing
Cloud คือการเชื่อมต่อ network โดยทำให้มองไม่เห็นการเชื่อมต่อ เหมือนกับการมีกลุ่มเมฆปกคลุม
ลักษณะของ cloud computing คือ สามารถเลือกใช้บริการตามช่วงระยะเวลาที่ต้องการได้ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ปริมาณ transaction มีไม่มากได้
ลักษณะของ cloud computing คือ สามารถเลือกใช้บริการตามช่วงระยะเวลาที่ต้องการได้ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ปริมาณ transaction มีไม่มากได้
ประเภทของ cloud computing
o Private cloud ใช้สำหรับในองค์กร
o Public cloud
ข้อดี
o ประหยัดต้นทุนเมื่อเทียบกับการลงทุนสร้างระบบเอง
o Scalability สามารถปรับเปลี่ยนขนาดให้รองรับกับความต้องการจริงก็ได้
o Access to top-end IT capability
o Focus on core competency
o ใช้สินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวัง
o ความปลอดภัยของข้อมูล
o ไม่มี platform ที่เป็นมาตรฐาน
o ความน่าเชื่อถือ
o Portability
Health Informatics
คือการนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ
ประโยชน์ของสารสนเทศสุขภาพ
ประโยชน์ของสารสนเทศสุขภาพ คือ ทำให้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสาธารณสุข เช่น สถานสุขภาพ ปัญหาสุขภาพ ปัญหาสุขภาพอนามัยของประชากร ปัญหาและอุปสรรคในการให้บริการสาธารณสุข ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงานบริการสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง
ตัวอย่างการใช้งาน ระบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วย เช่น ชื่อ, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, การแพ้ยา, อุณหภูมิและความดันเลือดรายวัน, ข้อมูลการรักษา, ยาที่ให้ผู้ป่วย ระบบนี้จะทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยของสถานพยาบาลบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยรายหนึ่งอาจได้รับการรักษาจากแพทย์หลายคนซึ่งอาจเกิดปัญหาความสับสนเกี่ยวกับการรักษาว่าได้รักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ระบบนี้จะช่วยให้แพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดความผิดพลาดได้อีกด้วย
Web 2.0
ลักษณะ
o ใช้งานกับ web brouser wfh
o ผู้ใช้งานสามารถแสดงความเห็นได้
o มี RIA (Rich Internet Application) มี user interface ที่ดียิ่งขึ้น
o มีการพัฒนาและการโต้ตอบระหว่างผู้ให้บริการ และผู้ใช้งาน
o มี mash-up คือการนำฟังก์ชั่นการใช้งานจากเว็บหลายๆที่ๆมาผนวกเข้าด้วยกัน
ความแตกต่างระหว่าง Web 1.0 และ Web 2.0
Web 1.0 นั้นการผลิตเนื้อหาต่างๆจะมาจากเจ้าของเว็บไซต์เท่านั้น ผู้ต้องการข้อมูลก็เข้าไปอ่านจากเว็บไซต์หรือค้นหาผ่าน search engine เป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้เองทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้อ่านกับเจ้าของเว็บไซต์หรือ ผู้พัฒนาเนื้อหาเป็นไปในลักษณะทางเดียว ไม่สามารถโต้ตอบหรือแสดงความคิดเห็นได้
Web 3.0
เนื่องจากข้อมูลใน web2.0 มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงต้องมีระบบบริหารจัดการเว็บให้ดีขึ้น ง่ายขึ้น ด้วยรูปแบบ Metadata ซึ่งก็คือการนำข้อมูลมาบอกรายละเอียดของข้อมูลนั้นๆ อาจเรียกว่า Tag ก็ได้ โดยระบบเว็บจะเป็นผู้จัดการในการค้นหาข้อมูลให้เรา จึงสามารถคาดการณ์ถึงข้อมูลได้ว่าจะมีการเชื่อมโยงกันอย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น
No comments:
Post a Comment